ในปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้งทางรัฐบาลก็มีนโยบายสนับสนุนด้วย เช่น ลดภาษีนำเข้า ภาษีสรรพสามิต เป็นต้น ทำให้หลายคนมีความสนใจและอยากเลือกมาใช้ เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดค่าน้ำมันแล้ว ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยการชาร์จด้วยไฟฟ้าอาจใช้เวลานาน

ดังนั้นหลายคนเลือกจะติดตั้งที่ชาร์จรถ EV ภายในบ้านเพื่อความสะดวกสบาย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยจึงขอรวบรวมข้อมูลน่ารู้ในการเตรียมบ้านให้พร้อมก่อนนำที่ชาร์จมาติดตั้งกันมีอะไรบ้างไปกันเลย
เรื่องที่ต้องรู้ก่อนติดตั้งที่ชาร์จรถ EV ที่บ้าน
1. ขนาดของมิเตอร์ไฟ หากน้อยกว่า 30 แอมป์ (30/100) เช่น 5 หรือ 15 แอมป์ ควรรีบแจ้งการไฟฟ้าเพื่อเปลี่ยนมิเตอร์ไฟให้มีขนาดตั้งแต่ 30 แอมป์ขึ้นไปทันที หรือหากเป็นมิเตอร์แบบ 3 เฟส ควรเลือกใช้ขนาด 15/45 เพื่อให้ไฟฟ้ามีปริมาณมากเพียงพอต่อการใช้งานภายในบ้านมากยิ่งขึ้น แต่การจะพิจารณาว่าจะใช้แบบ 1 เฟส หรือ 3 เฟส ต้องพิจารณาจากรุ่นของรถ EV ของเราและคุณสมบัติของเครื่องชาร์จควบคู่กันไปด้วย
2. ขนาดของไฟเมน เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอันดับต้น ๆ ที่ต้องเช็กก่อนติดตั้งที่ชาร์จรถ EV ภายในบ้าน เพราะหากมีขนาด 16 มิลลิเมตร ควรรีบเปลี่ยนมาใช้เป็นขนาด 25 ตารางมิลลิเมตร รวมถึงตรวจสอบตู้ Main Circuit Breaker (MCB) ว่าเป็นตู้ที่รองรับกระแสไฟได้สูงสุดที่ไม่เกิน 100 แอมป์
3. ตู้ควบคุมไฟฟ้า ต้องเช็คอย่างละเอียดว่ามีช่องว่างสำหรับติดตั้ง MDB หรือไม่ เพราะที่ชาร์จรถ EV ต้องแยกช่องจ่ายไฟออกต่างหาก และช่องที่ว่านั้นต้องมีขนาดตามที่กำหนดในการรองรับกระแสไฟของเครื่องชาร์จด้วย ทั้งนี้หากใครที่กำลังสร้างบ้านใหม่ และต้องติดตั้งตู้ประเภทนี้ควรเหลือช่องไว้ เช่น หากใช้ 6 ช่องควรเลือกแบบ 10 ช่อง เผื่อไว้สำหรับอนาคตในการใช้งานเพิ่มเติมนั่นเอง

4. ติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่ว หรือ RDC มีไว้สำหรับตัดวงจรเมื่อเกิดกระแสไฟฟ้าไหลเข้าออกในปริมาณที่ไม่เท่านั้น ซึ่งอาจก่อให้เกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจร รวมถึงเกิดกระแสไฟจนก่อให้เกิดไฟไหม้บ้านได้ โดยเครื่องชาร์จรถ EV ที่ดี ควรมีระบบนี้อย่างน้อย RCD Type B หรือเทียบเท่า แต่ในกรณีที่มีระบบตัดไฟอัตโนมัติแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่วเพิ่มก็ได้เช่นกัน
5. เต้ารับ สิ่งที่ควรเช็คก่อนติดตั้งที่ชาร์จรถ EV ภายในบ้าน คือเต้ารับของรถที่ไม่เหมือนกับของเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป การเสียบชาร์จควรใช้แบบ 3 รู และใช้หลักดินแยกต่างหากจากระบบไฟอื่น ๆ โดยต้องเป็นสายหุ้มฉนวนขนาดไม่ต่ำกว่า 10 ตารางมิลลิเมตร ส่วนหลักดินต้องมีขนาด 16 มิลลิเมตร ยาว 2.4 เมตรตามมาตรฐาน ทั้งนี้ควรต่อสายดินกับหลักดินด้วยความร้อน
นอกจากนี้เต้ารับควรทนต่อกระแสไฟฟ้าได้ต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 16 แอมป์ ส่วนเครื่องชาร์จที่มี IC-CPD ควรเป็นไปตามมาตรฐาน มอก.2911 หรือ IEC 62752 ส่วนแบบติดผนัง ควรได้มาตรฐาน มอก. 61851 หรือ ICE 61851 ด้วย
6. ตำแหน่งที่ตั้ง สิ่งที่ต้องเช็กก่อนติดตั้งที่ชาร์จรถ EV ภายในบ้าน คือตำแหน่งว่ามีระหว่างที่มีความเหมาะสมกับความยาวของสายชาร์จหรือไม่ เนื่องจากส่วนใหญ่จะมีให้ไม่เกิน 5 เมตรเท่านั้น และที่สำคัญควรอยู่ในที่ร่ม ป้องกันแดด ฝน ได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าบางรุ่นจะระบุไว้ว่าสามารถวางไว้นอกบ้านได้ก็ตาม เพื่อการใช้งานได้อย่างยาวนาน

หากใครที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าหรือมีไว้ใช้งานเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมเช็กก่อนติดตั้งที่ชาร์จรถ EV ภายในบ้านของเราให้เรียบร้อย เพราะเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อความปลอดภัยต่อตัวเราและผู้ร่วมอาศัยได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ยังมีวิธีเช็กอีกเป็นจำนวนมากควรศึกษาให้รอบด้าน จะได้ไม่ประมาท เกิดความคุ้มค่าและประโยชน์สูงสุดอย่างแน่นอน
เครดิตภาพ : kapook.com / chobrod.com / thaihometown.com
YouTube : https://www.youtube.com/watch?v=UnpY1wVp0FU ข้อควรรู้ ก่อนเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้า EV
#รถออกใหม่ #รถพลังงานไฟฟ้า #รถEV #รถบิ๊กไบค์ #Trip&Trick #ติดตั้งที่ชาร์จรถEV