ในช่วงเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่ปี รถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV ได้รับความนิยมมากขึ้น ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า EV จะกลายเป็นมาตรฐานไม่เพียงแต่เป็นแค่กระแส และจะเป็นส่วนของคำสั่งทางกฎหมายด้วย เช่นรัฐแคลิฟอร์เนียวางแผนที่จะจำกัดหรือสั่งห้ามการขายรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันและก๊าซธรรมขาติโดยทันทีในอนาคตอันใกล้ ไม่มีเวลาไหนจะดีไปกว่านี้อีกแล้วที่เราจะเริ่มเตรียมการสำหรับสถานีชาร์จ EV ที่จะต้องมีจำนวนมากขึ้น

ขอบคุณภาพประกอบจาก See News
การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญ มีโซลูชันที่เราต้องการเพื่อช่วยให้สามารถปรับตัวและพัฒนาไปพร้อมกับภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไป นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมขณะนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการนำทางไปสู่ธุรกิจสถานีชาร์จ EV ที่มีอนาคตสดใส
– สถานีชาร์จ EV จะอยู่ที่นี่และอยู่ต่อไป
ความจริงยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ามีมาตั้งแต่กำเนิดรถยนต์ในปลายศตวรรษที่ 19 รถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันแข่งขันกันเพื่อให้เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรม แต่เทคโนโลยีที่จำเป็นในการทำให้ EV มีราคาไม่แพงและมีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับผู้ขับขี่ในชีวิตประจำวันยังไม่มีในขณะนั้น

ขอบคุณภาพประกอบจาก MGR ONLINE
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความไม่แน่นอนในการผลิตน้ำมันทั่วโลกทำให้ผู้คนหันกลับมาสนใจรถยนต์ไฟฟ้าอีกครั้งในช่วงเปลี่ยนสหัสวรรษ นอกจากนี้เทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานของรถยนต์ไฟฟ้าในขณะนี้มีความก้าวหน้าและพร้อมที่จะรองรับการนำไปใช้อย่างแพร่หลาย
ในปี 2011 ชาวอเมริกันซื้อรถยนต์ไฟฟ้าประมาณ 17,000 คัน ภายในปี 2018 มีรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 360,000 คันที่เปิดตัวและออกสู่ท้องถนนทั่วประเทศเพิ่มขึ้นมากกว่า 2,000% ในเวลาไม่ถึงทศวรรษ
ไม่ใช่แค่ความสนใจของผู้บริโภคเท่านั้นที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ ทั้งกฎหมายของรัฐและรัฐบาลกลางที่สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่ารถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันแบบเดิมมีมากขึ้น ในเดือนกันยายน 2020 รัฐแคลิฟอร์เนียประกาศว่าจะห้ามการขายรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันทั้งหมดภายในปี 2035 และผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกกำลังมุ่งมั่นที่จะนำเสนอยานพาหนะไฟฟ้าทั้งหมดในอนาคตอันใกล้
สาเหตุหลักประการหนึ่งที่รถยนต์ที่ใช้น้ำมันได้รับความนิยมบนถนนในศตวรรษที่ 20 คือความสะดวกในการใช้น้ำมันเบนซิน ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้เชื้อเพลิงเหลวปลอดภัยในการขนส่งและจัดเก็บทั่วประเทศ และผู้ผลิตรถยนต์ในยุคแรกๆ ตระหนักดีว่าการเติมน้ำมันอย่างรวดเร็วที่ปั๊มทำได้ง่ายกว่าการชาร์จแบตเตอรี่หลายสิบก้อนในคราวเดียว

ขอบคุณภาพประกอบจาก THAILAND PLUS
กว่าศตวรรษมาแล้ว ที่คนขับมีตัวเลือกที่เหมือนกันที่ปั๊มน้ำมัน ทั้งน้ำมันเบนซินหรือดีเซล มีให้เลือกทั้ง Regular, Premium หรือ Super
ส่วน EV นั้น ปัจจุบันมีรถยนต์ Plug-in Hybrid จำนวนมากเช่นเดียวกับรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงและแบตเตอรี่, รถ SUV, รถบรรทุก, รถประจำทาง, รถจักรยานยนต์ โดยมีรถรุ่นใหม่เพิ่มมากขึ้นทุกปี นอกจากนี้ ในขณะที่คุณต้องไปเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันเสมอ การชาร์จรถยนต์ EV สามารถทำได้ในที่จอดรถทุกแห่งที่ติดตั้งสถานีชาร์จ EV ตั้งแต่อพาร์ตเมนท์ไปจนถึงอาคารสำนักงานและศูนย์การค้า
– แผนงานการสร้างสถานีชาร์จ EV เพื่ออนาคต
จุดหมายและการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตอาจเป็นเรื่องยาก เราต้องให้ความสำคัญกับการปรับตัว ทดสอบแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ของผู้ผลิตสถานีชาร์จหลายราย เพื่อช่วยให้ระบบที่จอดรถ, โรงแรม, อาคาร อพาร์ตเมนท์, เทศบาล, เจ้าหน้าที่จัดส่งยานพาหนะ และเครื่องมืออื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับการเปลี่ยนไปใช้มาตรฐานสถานีชาร์จ EV ในอนาคต
เครือข่ายการชาร์จ EV ให้ลูกค้าจะต้องสามารถควบคุมบุคคลที่สามารถเข้าถึงสถานีชาร์จและอัตราที่คนขับจ่ายได้ ในขณะเดียวกันก็ต้องมีตัวชี้วัดประสิทธิภาพเพื่อให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับธุรกิจที่พร้อมจะลงทุนครั้งแรกในเทคโนโลยีสถานีชาร์จ EV ต้องประเมินความต้องการโครงสร้างพื้นฐานของคุณ ระบุฮาร์ดแวร์สถานีชาร์จของคุณ จากนั้นปรับใช้และทดสอบสถานีของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าของคุณจะพึงพอใจกับประสบการณ์การชาร์จ
– ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของสถานีชาร์จ EV
ตลาด EV ได้เติบโตอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และต้องการโครงสร้างพื้นฐานของสถานีชาร์จ EV เพื่อให้ทันความต้องการ โดยไม่มีสัญญาณบ่งชี้ของการชะลอตัว เป็นที่ชัดเจนว่าขณะนี้เป็นเวลาที่ควรจะเริ่มลงทุนเพื่ออนาคตของธุรกิจของคุณและต้องสามารถปรับให้เข้ากับมาตรฐานการชาร์จ EV แบบใดก็ได้
#รถออกใหม่ #รถพลังงานไฟฟ้า #รถEV #รถบิ๊กไบค์ #Trip&Trick #สถานีชาร์จEV